Showcase festival: ก้าวแรกของการทัวร์ทั่วโลก ของภูมิ วิภูริศ

[maxbutton name=”English Phum”] [maxbutton name=”Thai”]

บทสัมภาษณ์แปลจากภาษาอังกฤษ

ภูมิ วิภูริศ เป็นศิลปินนักร้อง–นักแต่งเพลงชาวไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกผ่านอินเตอร์เน็ต จนบางคนอาจรู้สึกว่าเขามีชื่อเสียงในต่างประเทศยิ่งกว่าในบ้านเกิดตัวเอง แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องราวของเพลงและมิวสิควีดีโอที่ถูกแชร์ออกไปเท่านั้น สำหรับการทัวร์แสดงสดในต่างประเทศนั้น มันคือคนละเรื่องราวกันเลย เพราะมันมีคนทำงานในหน้าที่ที่หลากหลายมากเพื่อที่จะให้มันเกิดขึ้น แต่ทุกอย่างมันต้องมีจุดเริ่มต้น…

สวัสดีครับภูมิ ขอบคุณมาก ๆ ที่ให้เราสัมภาษณ์นะครับ ตอนนี้ภูมิทำอะไรอยู่บ้าง? แล้วอัลบั้มใหม่จะออกเมื่อไหร่? จะมีไปทัวร์ต่างประเทศอีกไหม?

• ผมทัวร์บ่อยมากครับช่วงที่ผ่านมา แล้วตอนนี้ (29 ก.ย. 62) ผมอยู่ที่เมืองนิวเจอร์ซี่ แล้วกำลังจะไปเล่นที่บรูคลินคืนนี้ แล้วพอทัวร์อเมริการอบนี้เสร็จ ผมกะว่าจะพักยาว ๆ ก่อนจะเริ่มทัวร์ไปตามที่ต่าง ๆ อีกรอบ

ดูเหมือนภูมิจะประสบความสำเร็จในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะมากกว่าในไทยด้วยซ้ำ ภูมิคิดว่าทำไมเหรอครับ?

• ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แล้วผมก็คิดว่าคนอาจจะรู้สึกแบบนั้นเพราะนักข่าวสนใจที่จะเขียนข่าวเวลาผมไปเล่นต่างประเทศมากกว่าในประเทศ คือจริง ๆ ปีนี้ (2562) ผมเล่นงานเฟสติวัลในไทยจำนวนงานพอ ๆ กับที่ผมไปเล่นในต่างประเทศเลยนะครับ แล้วก็ผมก็จะดูว่าผมควรจะไปทัวร์ที่ไหนจากตัวเลขผู้ฟังจริง ๆ แล้วผมเองก็โชคดีมากที่มีโปรโมเตอร์จากหลายประเทศที่อยากชวนผมไปเล่น

ภูมิเริ่มไปแสดงในต่างประเทศได้อย่างไร? งานไหนเป็นงานแรก แล้วมันส่งผลให้ได้งานเล่นเพิ่มขึ้นไหม?

• ผมไปเล่นที่งาน LUCfest 2017 ที่ไต้หวัน ซึ่งผมได้เจอกับเอเจนต์ติดต่องานต่างประเทศปัจจุบันของผม ซึ่งเธอจะเป็นคนที่จัดการเรื่องลอจิสติกส์กับเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ผมทั้งหมด งานนี้เรียกว่าเปิดหูเปิดตาผมให้ได้เข้าใจในโอกาสที่จะได้ทำงานที่ผมรักและเดินทางไปพร้อม ๆ กัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดนะ ถึงเราจะมีคอนเนคชั่นดีแค่ไหน แต่มันจะไม่มีประโยชน์ถ้าเพลงเราไม่มีเอกลักษณ์ และไม่ได้แสดงความเป็นตัวตนของเราจริง ๆ ออกมา

LUCfest เป็นงานแบบ showcase festival ใช่ไหม? เล่าได้ไหมว่ามันคืออะไร?

• มันเหมือนเป็นพื้นที่สำหรับวงที่ลงทุนเองที่จะไปเล่นต่อหน้าคนดูที่เป็นทั้งแฟนเพลง โปรโมเตอร์ และพวกผู้จัดเฟสติวัล คิดซะว่ามันเหมือนปาร์ตี้ขนาดใหญ่ที่ทุกคนมาร่วมสนุกกัน แต่ต้องเอาน้ำกับอาหารมาเอง มันเป็นงานที่จะได้พบปะคนในอุตสาหกรรมดนตรี และก็ช่วยสร้างเครือข่ายธุรกิจใหม่ ๆ ด้วย

การไปเล่นในงาน showcase เหมือนต้องลงทุนเยอะมากเลย โดยเฉพาะในเรื่องการออกค่าเดินทางเอง แถมไม่มีค่าจ้างด้วย ภูมิคิดว่าศิลปินหรือวงแบบไหนที่ควรหรือไม่ควรไปเล่นในงาน showcase? แล้วพวกเขาต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง?

• ผมว่าวงไหนจะลงทุนให้กับตัวเองเท่าไหร่ก็แล้วแต่เขาจะดีที่สุดครับ แต่ยังไงก็ตาม คุณต้องอยากที่จะไปจริง ๆ ก่อนที่จะมาเริ่มคิดว่าจะยอมจ่ายเงินเท่าไหร่ แล้วคุณก็ต้องทำใจไว้ล่วงหน้าว่าการไปเล่นงาน showcase นั้นอาจจะไม่ได้อะไรกลับมาเลยก็ได้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรเป็นเหตุผลหลักที่จะไปควรจะเป็นความต้องการที่จะได้เอาตัวเองออกไปให้คนเห็น ไปรับประสบการณ์ใหม่ ๆ เห็นบรรยากาศของงาน แล้วให้คิดว่าโอกาสธุรกิจดี ๆ ถ้าเข้ามาก็เป็นของแถมแทนละกันครับ

งาน showcase festival มีหลากหลายงานในโลก แต่ไม่เคยมีในเมืองไทย ภูมิว่ามีเหตุผลอะไรไหม?

• จริง ๆ แล้วผมคิดว่าการ showcase มันเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้นะ มันแค่ต้องมีคนดูที่ถูกต้องกับความต้องการ และสำคัญที่สุดคือศิลปินก็ต้องแสดงตัวตนออกมาให้ได้ ผมยอมรับว่าเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมดนตรีไทยนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วผมก็เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นวงเล็กวงใหญ่ พวกเขาต้องเล่นเดือนละ 20 กว่างานถึงจะได้รายได้เพียงพอ หรือตรงตามโควต้าของค่าย ผมว่ามันเหนื่อยมาก ๆ เลยล่ะ แล้วก็ทำแบบนี้ก็จะทำลายวิญญาณและความคิดสร้างสรรค์ไปหมดเลย ผมว่าเราไม่มีงาน showcase ก็เพราะว่าศิลปินมัวแต่ต้องดิ้นรนพยายามให้อยู่รอดจนไม่มีเวลาหรือพลังงานมามาคิดเรื่องงาน showcase ผมคิดว่างาน Bangkok Music City จะช่วยสร้างความสนใจจากต่างประเทศ แล้วก็สร้างโอกาสให้วงไทยได้ไปลองโมเดลการทำงานใหม่ ๆ และทัวร์ต่างประเทศด้วยครับ

การจัดงาน showcase festival อย่าง Bangkok Music City จะเป็นประโยชน์กับศิลปินและวงดนตรีไทยไหม? แล้วจะช่วยให้ไปทัวร์ต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นจริงไหม?

• ผมเชื่ออย่างนั้นนะ แล้วผมก็เชื่อว่าการแสดงสดยังเป็นวิธีที่จะสร้างแฟนเพลงใหม่ ๆ และโอกาสในการไปเล่นในต่างประเทศด้วย แต่ยังไงก็ตาม จากประสบการณ์ของผมเอง การทัวร์ต่างประเทศต้องใช้เงินเยอะมาก แล้วก็เหนื่อยมาก แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำ แล้วก็ยังได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์ด้วย ผมอยากให้วงไทยได้ไปลองเล่นต่างประเทศเยอะ ๆ แล้วพอกลับมา ก็มาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้วงอื่น ๆ ฟัง เพื่อจะได้สร้างสีสันและวิธีการทำงานใหม่ ๆ ในวงการได้

ภูมิคิดอย่างไรกับงาน Bangkok Music City?

• ผมคิดว่ามันจะช่วยเปิดซีนไทยให้โปรโมเตอร์ต่างประเทศได้มาลองดู ลองเห็น ลองฟัง และรับประสบการณ์พร้อมกับเห็นว่าเมืองไทยมีดียังไง ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับทุกคนเลยครับ

เรารู้ว่าภูมิต้องไปเล่นที่เวียตนามช่วงงาน BMC 2019 พอดีเลย (เสียใจ… ); ) ภูมิมีอะไรฝากถึงศิลปินและวงดนตรีที่จะเล่นในงาน BMC 2019 ไหมครับ?

• เอาให้เต็มที่เลยครับ! พยายามสนุกกับทุกนาทีที่ผ่านไป เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอาจจะมีอะไรดี ๆ จากการเล่นในงานนี้ก็ได้นะ

สัมภาษณ์ทางอีเมลเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2562